![]()
ผลจากการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 18 เกี่ยวกับแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ(18th GMS Ministerial Conference) ระหว่างวันที่11-12 ธันวาคม 2555 ณ นครหนานหนิง มณฑลกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน เห็นชอบร่วมกันว่าจะมีการลงทุนเพิ่มในพื้นที่ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงไม่น้อยกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.7 หมื่นล้านบาทภายในปีหน้า 2013
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีประจำแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (แผนงาน GMS) ของไทยได้ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรี 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 18พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะผู้ประสานงานหลักของแผนงาน GMS ในระหว่างวันที่ 11-12 ธันวาคม 2555 ณ นครหนานหนิง มณฑลกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรัฐมนตรี GMS เจ้าหน้าที่อาวุโส และภาคเอกชนจากประเทศสมาชิกและภาคีการพัฒนาทั้งในและนอกอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
![]()
แผนงาน GMS ได้ฉลองความร่วมมือครบรอบ 20 ปี ในปี 2555 นี้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีพัฒนาการก้าวหน้าอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน แผนงาน GMS ได้ดำเนินงานรวม 179 โครงการ ประกอบด้วย โครงการลงทุน วงเงินรวม 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นด้านคมนาคม และพลังงาน และโครงการด้านวิชาการ วงเงินรวม 288 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งนี้ ในปัจจุบันแผนงาน GMS อยู่ระหว่างการจัดทำกรอบการลงทุนของภูมิภาค (Regional Investment Framework: RIF) ตามแนวทางที่กำหนดภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาแผนงาน GMS ฉบับใหม่ ปี 2555-2565 ที่เน้นการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจเป็นแนวทางหลัก
ในโอกาสการประชุมนี้ รัฐมนตรีแผนงาน GMS ได้ร่วมเสนอแนวทางการจัดทำกรอบการลงทุนฯ โดยสนับสนุนให้กรอบการลงทุนฯ มีความชัดเจนตามแนวคิดการพัฒนาที่สร้างสรรค์ ครอบคลุม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเร่งพัฒนาการพัฒนาการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเมืองและเมืองชายแดน และเขตเศรษฐกิจพิเศษ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านเกษตรและพลังงาน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของภาคส่วนต่างๆ อาทิ แรงงาน หน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนการปรับปรุงกฎระเบียบและกฎหมายให้เอื้อต่อการลงทุน รัฐมนตรีทุกประเทศเห็นพ้องกันว่าการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชน
![]()
การเพิ่มบทบาทของ SMEs การใช้ประโยชน์จากคณะทำงาน 9 สาขาภายใต้แผนงาน GMS และสภาธุรกิจ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงการเชื่อมโยงแผนงาน GMS กับอาเซียน และกลไกระดับภูมิภาคอื่นๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระดมทุนเพื่อการพัฒนารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ได้ยืนยันการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยต่อแผนงาน GMS อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำบทบาทและข้อเสนอของไทย
(1) ในการช่วยพัฒนากา เชื่อมโยงทางกายภาพของภูมิภาค และขอให้ ADB ช่วยสนับสนุนเมียนมาร์ในการเชื่อมต่อถนนในบริเวณเมียวดี-กอกะเรก และถือโอกาสนี้แสดงความยินดีกับพิธีเปิดท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนของไทย และพิธีเทคอนกรีตพื้นสะพานโครงการสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 4 ระหว่างไทย-สปป.ลาว (เชียงของ-ห้วยทราย) ในวันที่ 12 ธันวาคม 2555
(2) ขอให้ GMS เร่งปรับปรุงการอำนวยความสะดวกการค้าในเรื่องการปรับแนวเส้นทางของระเบียงเศรษฐกิจ การวางระบบการประกันภัยข้ามพรมแดน การบริหารจัดการชายแดนที่ทันสมัย
(3) ขอให้ ADB ช่วยสนับสนุนความต่อเนื่องของแผนงานพนมเปญให้ต่อเนื่องไปหลังจากปี 2557
(4) ไทยขอให้นักลงทุนและภาคีการพัฒนาที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย
(5) เน้นย้ำความสำคัญของการเชื่อมโยงเกษตรกรและ SMEs เข้ากับห่วงโซ่การผลิตของภูมิภาค และการพัฒนาช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงิน
(6) เร่งขับเคลื่อน National Single Window และ Self
Certification เพื่อสนับสนุนกรอบอาเซียน
(7) ไทยยินดีสนับสนุนศูนย์ประสานงานด้านท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อมและเกษตร ของ GMS ที่มีที่ตั้งในไทยอยู่แล้วในปัจจุบัน และพร้อมที่จะเป็นที่ตั้งของศูนย์ประสานงานด้านพลังงาน และด้านรถไฟของภูมิภาคในระยะต่อไป
(8) ขอให้ ADB ทำการประเมินผลเพิ่มเติมในเรื่องการพัฒนาภาคเอกชนและชุมชน และคัดเลือกโครงการลงทุนโดยคำนึงถึงผลตอบแทนทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมคู่กับด้านเศรษฐกิจ
![]()
นอกจากนี้ รัฐมนตรีประเทศ GMS ให้ความเห็นชอบผลงานสำคัญ รวม 5 เรื่อง ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการสาขาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ปี 2556-2560 (2) แผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจสำหรับการดำเนินงานร่วมกันเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์ที่มีการเคลื่อนย้ายในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ปี 2555-2557 (3) การขยายระยะเวลาการดำเนินงานของแผนงานสนับสนุนด้านการเกษตรระยะที่ 2 ให้สิ้นสุดในปี 2563 (4) แนวคิดการจัดตั้งสมาคมการรถไฟของประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ให้เป็นองค์กรที่ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลในระยะเริ่มแรก และ (5) บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลต่อการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประเทศ GMS ซึ่งในการประชุมนี้ได้มีการลงนามระหว่างกัมพูชา สปป.ลาว จีนและเวียดนามในเรื่องนี้แล้ว ในขณะที่ไทยและเมียนมาร์จะลงนามเป็นภาคีในภายหลังกรอบการลงทุนของภูมิภาค พร้อมด้วยแผนงานและโครงการลงทุนลำดับความสำคัญสูงที่อยู่ระหว่างจัดทำและจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2556 คาดว่าต้องใช้วงเงินลงทุนอย่างต่ำประมาณ 9,000ล้านเหรียญสหรัฐ โดยกรอบการลงทุนฯ นี้เป็นแผนสำคัญที่จะก่อให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่ในภูมิภาค รวมถึงจะสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนทั้งในเมืองและชนบท ตลอดจนช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาและสร้างสมดุลการพัฒนาของประเทศในภูมิภาคได้อย่างมีนัยสำคัญ
|
วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556
ลุ่มแม่น้ำโขงลงทุนเพิ่ม 9 พันล้านUS :รถไฟความเร็วสูง-ไฟฟ้าเชื่อม 6 ประเทศ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น